วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552

แหล่พรสอนชีวิต

* ฟังเทศน์มานาน โยมรำคาญหรือเปล่า อย่าเพิ่งนั่งหาว กันเลยหนา
ถ้าหากเทศน์นาน เดี๋ยวจะพานระอา จะนึกนินทา ว่านานเกินไป
ถึงเทศน์นานนาน มองในพานไม่เพิ่ม เห็นอยู่เท่าเดิม แล้วอยากร้องไห้
ฟังเทศน์กันเพลิน จนลืมเดินเรี่ยไร เหงื่อหยดเหงื่อไหล เพราะโยมไม่เมตตา
* โยมไม่ศรัทธา ก็ไม่ว่ากันหรอก จะไม่เก็บไปบอก ให้โยมขายขี้หน้า
ว่าญาติโยมที่นี่ ขี้เหนียวเต็มประดา แต่จำติดตา อีกนานหลายปี
เทศน์นานเกินไป ก็ไม่ได้ประโยชน์ เดี๋ยวโยมพานโกรธ จะลุกเผ่นหนี
ตะบอยเทศน์อยู่ได้ ไม่เห็นจบสักที เอวัง ก็มี วางคำภีร์ลง
* ยะถา สัพพี วาริวะหา โยมปราถนา จงสมประสงค์
เหมือนดั่งจันทร์เพ็ญ เด่นดวงเต็มวง เหมือนน้ำเปี่ยมทรง สองฝั่งคงคา
เหมือนแก้วมณี ที่เนรมิต บันดาลศักดิ์สิทธิ์ สมปราถนา
ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เพลินอุรา อาโรคะยา โรคาหมดพลัน
* ผู้หญิงคนใด อยากได้สามี ให้ได้คนดี เหมือนดังใฝ่ฝัน
รักกันตลอด เป็นยอดชีวัน เป็นคู่เคียงกัน จนสิ้นชีวิน
ผู้ชายคนใด อยากได้ภรรยา ให้งามโสภา ยศฐาน์ทรัพย์สิน
ให้รักงามปลอด แม่ยอดยุพิน อยู่จนชีวิน ดับดิ้นตามกัน
* สำหรับลูกหลาน อย่ารานเกเร เป็นคนเสเพล จะต้องโศกศัลย์
เป็นลูกหลานดี มีศีลมีธรรม์ อย่าดื้ออย่ารั้น จะพลันอับจน
เป็นลูกที่ดี อย่างชาลี กัณหา กตัญญุตา และมีเหตุผล
แม่นางมัทรี เปรมปรีดิ์กมล พ่อเวสฯ ได้ยล ทศบารมี
* ระตะนัตตะยานุภาเวนะ ขออำนาจพระ ปกป้องน้องพี่
ทุกข์โศกโรคภัย อย่าได้ราวี ให้ทุกท่านมี อายุยืนนาน
ยึดมั่นหลักธรรม องค์สัมพุทธา ทาน ศีล ภาวนา ยึดเป็นแก่นสาร
ให้โยมได้ยลมรรค ผล นิพพาน ลาโยมทุกท่าน เอวัง ก็มี ...นั่นแล...
ท่านเจ้าคุณพิพิธ แต่ง
พระจิตติเทพ ฌานวโร นำเสนอ

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

แหล่จำลา อาลัย


* ก่อนจบลาจากขอฝากคำพร เป็นถ้อยสุนทรแด่โยมทั้งหลาย
อาลัยจริงจริงโยมหญิงโยมชาย ข้างหน้าขวาซ้ายผู้ให้เมตตา
สมภารลูกวัดที่จัดต้อนรับ เหมือนรอยประทับที่บนหินผา
ถึงนานเพียงใดฝังใจติดตา ขอให้สัญญาไม่ลืมพระคุณ
จะให้รับใช้เมื่อใดไม่ขัด ขอปฏิบัติ ขอมาเกื้อหนุน
กตเวทีต่อผู้มีพระคุณ บำรุงใบบุญอบอุ่นดวงมาน
จำจากโยมไปหัวใจกังวล มองโยมทุกคนแล้วยิ่งสงสาร
ได้รับความรักจากเจ้าของทาน พบกันไม่นานก็จำจากจร
เมื่อกลับไปวัดในคืนวันนี้ ในดวงฤดีมีแต่ทอดถอน
อาทิตย์อัสดงคงมิได้หลับนอน คงเฝ้าอาวรณ์อยู่ไม่เว้นวาย
ยามหลับตาลงก็คงผวา มองเห็นใบหน้าของท่านทั้งหลาย
โยมแม่ โยมป้า โยมตา โยมยาย โยมหญิง โยมชาย ช่างดีแสนดี
ท่านได้ทำบุญค้ำจุนต่อวัด ท่านสร้างสมบัติเลิศล้วนถ้วนถี่
ท่านสร้างกุศลโสภณโสภี เมตตาอารี แหม..ดีเหลือใจ
ฉันรักญาติโยมที่นี่ทุกท่าน แล้วเจ้าของกัณฑ์รักฉันบ้างไหม
(ฉันคิดถึงโยมที่นี่ทุกท่าน แล้วโยมเล่านั่นคิดถึงฉันบ้างไหม)
ฉันเกรงว่าพรากจากไม่ทันไร พบพระองค์ใหม่แล้วโยมก็ลืมฉันลง
เพื่อเป็นเครื่องเตือนจิตสนิทแนบแน่น เหมือนรักของแฟนเพิ่มเติมเสริมส่ง
ย้ำความระลึกรู้สึกมั่นคง ย้ำเจตจำนงคงเจตนา
เพื่อเตือนหัวใจมิให้ระแวง ฉันขอเอาแบงค์ไว้ดูต่างหน้า
แบงค์สิบยี่สิบเชิญหยิบออกมา แบงค์ร้อยก็ไม่ว่าห้าร้อยยิ่งดี
ถ้าโยมไม่ให้ฉันก็ไม่ว่า แต่จะเอาไปโพนทนาว่าญาติโยมวัดนี้
แค่กระดาษใบเดียวก็ขี้เหนียวก็เต็มที แต่ถ้าโยมปรานีฉันไม่ลืมเมตตา
จึงขออวยพรแด่โยมทุกท่าน อายุคงมั่นถึงร้อยปีกว่า
วรรณะผ่องใสไร้โรคโรคา สุขะ พลา หลั่งมาครบครัน
ขอให้ได้ทิพยโภคา ต่อเมื่อชีวาล่วงลับดับขันธ์
ขอให้ประสบพบนิพพานครัน ถึงอวสาน...เอวังก็มี.....นั่นแล...
เจ้าคุณพิพิธ แต่ง


วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

แหล่พรลา ต่างๆ

นับตั้งแต่ได้ฟังเทศน์มหาชาติมา สิ่งที่เราซึ่งเป็นผู้รอคอยจากพระเทศน์ก็คือ แหล่พร แหล่พรมีทั้ง พรประหน้าธรรมาสน์ และพรลา เพราะนอกจากจะได้ฟังน้ำเสียงแล้วยังเป็นกำลังใจให้อยากฟังต่อไป และยังรอว่า เมื่อเทศน์มหาชาติจบแล้ว พระเทศน์จะแหล่ลา ซึ่งเราก็ชอบอีก บางทีในช่วงกลางไม่ค่อยได้ฟัง รอฟังช่วงท้าย ยิ่งถ้าพระเทศน์มี แหล่พบ-แหล่พร ที่แต่งมาใหม่ๆ มาแหล่ให้ฟังก็ยิ่งมีกำลังใจได้รับความสุข
มาในระยะหลังนี้ พบว่า แหล่พรประหน้าธรรมาสน์ และแหล่พรลา ไม่คอยมีพระเทศน์แต่งขึ้นใหม่ แหล่เก่าๆ ก็ซ้ำแล้วซ้ำอีก เหมือนผลไม้ที่ถูกบีบจนช้ำอย่างนั้น โยมผู้ฟังก็ออกจะรู้ และท่องได้เหมือนพระยถา-สัพพี ฯลฯ ความตั้งใจฟังเพื่อรั้งท้ายก็หมดไป พระเทศน์ที่ไม่ได้เรียนภาษาไทยให้มีพื้นพอสมควรก็ไม่ได้แต่งแหล่ขึ้นมาใหม่ เมื่อ ของเก่ากำลังหมด ของใหม่ไม่เกิดขึ้น ความนิยมในการฟังเทศน์มหาชาติก็จะพบกับความเสื่อมถอยในวันข้างหน้า
ในการเผยแพร่แหล่นี้ โดยปกติเขาไม่ค่อยเผยแพร่กัน มักเป็นของหวงเฉพาะ แหล่ลาส่วนใหญ่ลักจำกันมา แต่เมื่อนึกถึงเพลงแล้วไม่เห็นเขาหวงเนื้อกัน ส่วนพระรูปใดที่จะนำไปแหล่ก็เลือกตามความเหมาะสม ถ้าแหล่ไม่ได้จะพูดตามกลอนแหล่เป็นข้อคิด หรือตัดส่วนใดส่วนหนึ่งไว้ประสิทธิ์ประสาทพร การครองใจผู้ฟังจะเกิดแก่พระเทศน์รูปนั้นๆ ส่วนผู้อ่านซึ่งไม่ใช่พระเทศน์ก็อ่านได้ โดยคิดว่ารับพรจากพระ หรือจะตัดตอนไปสอนใครๆ ในฐานะผู้ใหญ่หรือครูอาจารย์จะทำให้จำง่ายน่าฟังขึ้น
ข้อแนะนำในการแหล่ ขอให้ฟังเพลงชุดเก่าๆ ของไวพจน์ เพชรสุพรรณ หรือชุดแหล่ชาดกของพร ภิรมย์ หรือทศพล หิมพานต์ ก็พอจะคลำทานองได้ แต่สำหรับพระให้ลากเสียงดึงจังหวะให้ยาวกว่าเพลงหน่อยก็จะเพราะดี